หากใครที่กำลังคิดจะต่อเติมหรือทำ หลังคาโรงรถ แต่ไม่รู้ว่าควรเลือกใช้แบบไหนให้เหมาะสมกับบ้าน เพราะในท้องตลาดมีให้เลือกมากมายหลายชนิด แกทั้งยังมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นวัสดุในการผลิต ดีไซน์ ความแข็งแรงทนทาน ดังนั้นเราจึงนำข้อมูลมาแนะนำดังต่อไปนี้
-
หลังคาโรงรถ คาอะคริลิค
หลังคาประเภทนี้มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีที่สุด มีลักษณะเป็นแผ่นเรียบโปร่งแสงใสเกือบเท่ากระจก แต่มีคุณสมบัติป้องกัน UV และรังสีอินฟาเรต ทำให้ป้องกันความร้อนได้เป็นอย่างดี มีความแข็งแรงทนทาน มีความหนา 6 มม. เมื่อติดตั้งจะดูสวยทันสมัย แต่มีข้อด้อยก็คือมีราคาค่อนข้างสูง การติดตั้งต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญ
-
หลังคาไวนิล
หลังคาประเภทนี้มีลักษณะเป็นแผ่น UPVC คล้ายแผ่นโฟม มีน้ำหนักเบา โดยทั่วไปจะมีความหนา 7 มม. เป็นหลังคาทึบแสงจึงช่วยป้องกันความร้อนได้ดี และยังช่วยช่วยซับเสียงเมื่อฝนตกกระทบจะไม่ดังมาก หลังคาไวนิลยังมีดีไซน์ที่สวยงามมีให้เลือกหลายสีหลายเกรดเหมาะกับการทำหลังคาทุกสไตล์ ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานอีกด้วย
-
หลังคาโรงรถ upvc
เป็นหลังคาที่ทำมาจากจากคาร์บอนไฟเบอร์ทึบแสงที่เคลือบ 3 ชั้นจึงทำให้มีความหนาแข็งแรงทนทาน นำหนักเบา สีไม่ลอกง่าย ทนต่อความร้อน หรือสารเคมีได้อย่างดี บางชนิดยังมีการเคลือบผิวให้เรียบลื่น ทำให้หมดปัญหาเรื่องฝุ่นเกาะ หรือเกิดน้ำขังจนเกิดตะไคร่
-
หลังคาเมทัลชีท
เป็นหลังคาอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยม เพราะมีราคาถูก มีน้ำหนักเบา มีการเคลือบกันสนิม จึงทำให้แข็งแรงทนทานมีความหนาตามมาตรฐานอยู่ที่ประมาณ 0.2 ถึง 0.3 มม. ติดตั้งง่าย สามารถขึ้นรูป หรือตัดตามองศาที่ต้องการได้ แต่ข้อเสียก็คือไม่สามารป้องกันความร้อนมากนัก ทำให้เกิดความร้อนสะสม ซับเสียงได้ไม่ดีเมื่อฝนตกกระทบจะเกิดเสียงดังมาก
-
หลังคาโรงรถ ไฟเบอร์กลาส
หลังคาประเภทนี้จะโปร่งแสงแบบขุ่น ๆ ไม่ใสเหมือนหลังคาอะคริลิค ทำให้แสงมีความนุ่มนวลสบายตา หลังคาไฟเบอร์กลาสยังมีความแข็งแรงทนต่อแรงดึงได้สูง มีเส้นยยแก้วที่เป็นองค์ประกอบเป็นฉนวนความร้อน มีการซับเสียงได้ดี มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และมีราคาไม่แพง
ทั้งหมดนี้คือแนวทางการเลือก หลังคาโรงรถ ที่แต่ละประเภทก็มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป โดยสิ่งสำคัญในการพิจารณาก็คือความเหมาะสมไม่ว่าจะเป็นงบประมาณราคา ดีไซน์ ความทนทาน เพื่อจะได้ใช้งานได้ตามจุดประสงค์ที่เราต้องการให้มากที่สุด
