แมวสก๊อตติสโฟลล์ แมวหูตก หน้าตาน่ารักน่าชัง แต่หากใครคิดจะเลี้ยงก็ควรศึกษาให้ละเอียด เพราะต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่มากกว่าแมวสายพันธุ์อื่น
ความเป็นมาของ แมวสก๊อตติสโฟลล์
แมวสายพันธุ์สก๊อตติสโฟลล์มีต้นกำเนิดจากประเทศสกอตแลนด์เกิดจากการผสมพันธุ์ของแมวสายพันธุ์พื้นเมืองกับแมวพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ โดยมีเพียงลูกแมวตัวเดียวเท่านั้นที่คลอดออกมาแล้วหูมีลักษณะตกท่ามกลางตัวอื่น ๆ ที่มีหูเป็นปกติโดยแมวหูตกตัวนั้นมีชื่อว่า “ซูซี่” ซึ่งหากจะว่าไปแล้วถือเป็นจุดเริ่มต้นของสก๊อตติสโฟลล์ก็ว่าได้
แต่ถึงแม้จะมีต้นกำเนิดมาจากสกอตแลนด์ แต่กลับได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในอเมริกา และด้วยความน่ารักของเจ้าของสก๊อตติสโฟลล์ที่ทำให้ใครอยู่ใกล้ก็ต้องหลงเสน่ห์ จึงถูกพัฒนาสายพันธุ์ให้เป็นแมวที่สวยงามจนมาถึงในปัจจุบัน
แมวสก๊อตติสโฟลล์ กับความผิดปกติของสายพันธุ์
การที่หูของแมวสายพันธุ์นี้ตกถึงแม้จะดูน่ารัก แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องดีสักเท่าไหร่เพราะบ่งบอกถึงความผิดปกติ และเป็นการสืบทอดสู่รุ่นต่อรุ่น ความผิดปกติอย่างแรกก็คือเขาจะไม่สามารถผสมพันธุ์กับแมวหูตกสายพันธุ์อื่น ๆ เพราะหากคลอดลูกออกมาอาจจะไม่สมบูรณ์ มีปัญหาการเดิน การผสมพันธุ์เพื่อให้หูออกมาตกพับเหมือนเดิมก็คือต้องผสมกับแมวหูตรงเช่น อเมริกัน ช็อตแฮร์ และบริติช ช็อตแฮร์เท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้รับประกันว่าลูกแมวที่เกิดมาจะหูตกทุกตัว อาจจะมีเพียงไม่กี่ตัว หรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ ความผิดปกติอย่างก็คือ เรื่องของกระดูก และข้อ ที่มีความเปราะบาง ที่มักจะบาดเจ็บ เกิดอาการข้ออักเสบตามพันธุกรรมที่ไม่เหมือนแมวทั่วไป
ลักษณะทั่วไป นิสัย และการเลี้ยงดู แมวสก๊อตติสโฟลล์
แมวสายพันธุ์สก๊อตติสโฟลล์ จะมีจุดเด่นอยู่ที่หูตกพับติดศีรษะ (ปัจจุบันมีแบบหูตั้งด้วย) ดวงตากลมกระจ่างใส ขาและหางกลม เป็นแมวที่มีรูปร่างขนาดกลาง ส่วนขนมีทั้งสั้น และยาว โดยขนยาวจะเรียกว่า สก็อตติชโฟลล์ลองแฮร์ ที่ต้องดูแลรักษามากเป็นพิเศษ
สำหรับนิสัยนั้นจะเข้ากันกับมนุษย์ได้ดี มีความอ่อนหวาน เรียบร้อย เพราะไม่ค่อยซน แถมยังไม่ดื้อ บางทีก็ขี้อ้อนอยากให้เล่นด้วยแต่ไม่บ่อย และชอบให้แปรงขนเป็นที่สุด
การเลี้ยงดูอาหาร วัคซีนต่าง ๆ ก็เหมือนแมวสายพันธุ์อื่น แต่ด้วยความที่มีกระดูกที่เปราะบาง การจับหรือเล่นควรทำด้วยความนุ่มนวลระมัดระวัง ดังนั้นจึงควรพาไปหาหมอบ่อย ๆ เพื่อตรวจสุขภาพและกระดูก
เมื่อมาถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่า แมวสก๊อตติสโฟลล์ เลี้ยงไม่ง่าย หากใครคิดจะเลี้ยงต้องเข้าใจ และใส่ใจให้มากเป็นพิเศษ เพราะเขาไม่ได้มีร่างกายแข็งแรงเหมือนแมวสายพันธุ์อื่น ๆ
